ลุควินเทจบอกเลยว่า แต่งไม่ยากแถมสามารถแมทช์ตามได้ในชีวิตจริง Shirt2hands จะพาไปดูเอง
ลุค 1 : เสื้อเชิ้ตลายปริ๊นท์แขนยาว
มากันที่ลุคแรก สำหรับหนุ่มๆ ตระกูลนี้ ที่เลือกหยิบเสื้อเชิ้ตผู้ชายมาสวมใส่แบบง่ายๆ ให้ลุคที่ดูสบาย ไม่ทางการมาก โดยเพิ่มลูกเล่นของเสื้อเชิ้ตด้วยลายปริ๊นท์เท่ๆ ที่แปลกตา มีทั้งสไตล์ญี่ปุ่น และวินเทจ ผู้ชายหุ่นไหนใส่ก็แต่งรอด เริ่มกันที่เจเจ หรือพีท (ในเรื่อง) ที่ใส่เสื้อเชิ้ตลายปริ๊นท์สไตล์จีนฮ่องกง สีพื้นๆ อย่างสีขาว ลวดลายไม่ใหญ่จนเกินไป ลองเลือกจับคู่กับกางเกงสแลคสีดำ สามารถแต่งไปในโอกาสต่างๆ ที่ต้องการความเป็นทางการได้เล็กน้อย หรือปลดกระดุมเสื้อเม็ดบน ใส่กับสนีกเกอร์สักคู่ ก็ได้ลุคลำลองพร้อมเที่ยว
ลุค 2 เสื้อเชิ้ตฮาวายแขนสั้น
เสื้อเชิ้ตฮาวายผ้าแขนสั้นผ้าพริ้วๆ เป็นอะไรที่คลาสสิคกันตลอดปีนี้เลยก็ว่าได้ เห็นได้จากหนุ่มๆ ในละครที่มักสวมใส่กัน ไม่ว่าจะเป็นวัยมหาลัย หรือจะวัยทำงาน แต่อยากได้ลุคชิลๆ ในวันหยุดก็จัดลุคนี้ได้ไม่ยาก เสื้อเชิ้ตฮาวายแบบเจเจ หรือพีท ใส่ให้ดูแพงได้เพียงแมทช์กับกางเกงผ้าขายาว แล้วหยิบไอเทมคูลๆ อย่างแว่นกันแดดสีเข้มมาสวม หรือจะเป็นลุคลำลองแบบฉี หรือไอซ์ (ในเรื่อง) ที่เรามักเห็นใส่เสื้อเชิ้ตฮาวายแขนสั้นทุกฉาก ส่วนมากเป็นสีเข้มและมีลายปริ๊นท์อย่างลายใบไม้ ดอกไม้ ให้ความเป็นวินเทจ ผู้ชายทุกคนหยิบมาใส่ง่ายๆ กับกางเกงยีนส์ขาสั้น สวมเครื่องประดับสแตนเลสเพิ่มความบอย อย่างข้อมือสายโซ่สแตนเลส สดใสและเท่สุดๆ
ลุค 3 : เสื้อเชิ้ตสไตล์ญี่ปุ่น/คอจีน
มาต่อกันที่ลุคอาเฮียของน้องๆ ทุกคน ที่สาวๆ ทั้งหลายอยากเป็นสะใภ้บ้านม๊าภัสสร ลุคของต่อ หรืออี้ (ในเรื่อง) มักจะเห็นสวมใส่เสื้อเชิ้ตหลากหลายแบบ ส่วนมากเป็นเชิ้ตสีเข้ม แต่ลุคที่สะท้อนความเป็น อี้ ได้อย่างชัดเจนที่สุด คือ ลุคเสื้อเชิ้ตแบบคอจีน หรือไม่มีปกแหลม คล้ายๆ คอกลมแบบกระดุมยาวผ่าด้านหน้าทั้งแถบ ปลดกระดุมบนเล็กน้อย เพิ่มความเนี้ยบด้วยการเซ็ตผมเปิดหน้าให้เห็นออร่าความหล่อ หนุ่มๆ หลายคนแต่งตามได้ไม่ยาก และเสื้อแขนยาวทำให้ดูน่าเกรงขามขึ้นเล็กน้อย
ถ้าเบาลงมาหน่อยก็ลองใส่เสื้อเชิ้ตคอจีนแบบเจมส์ หรือเวกัส (ในเรื่อง) เลือกเสื้อผ้าลินินคอจีนสีขาว ผมปล่อยลงมาปรกหน้าแบบไม่เซต ให้ลุคที่ดูธรรมชาติในสไตล์ญี่ปุ่นมาก รับรองว่าจับคู่กับกางเกงขาห้าส่วนแล้วดูดีน่ามอง
ลุค 4 : เชิ้ตลายปริ๊นแขนยาว กับเสื้อยืดด้านใน
คงความวินเทจกันต่อกับลุคของก๋วยเตี๋ยว ที่การแต่งกายค่อนข้างชัดเจน เป็นไอเดียวินเทจ ผู้ชายแต่งตามได้ด้วยไอเทมเดิมได้เลย เพียงแค่มีเสื้อลายปริ๊นท์แบบวินเทจ หรือเนื้อผ้าเงาๆ เล็กน้อย อาจจะเป็นตัวเดิมที่ใส่จนเบื่อ ก็ลองสวมเสื้อยืดสีขาวไว้ด้านใน แล้วคลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวแบบไม่ต้องติดกระดุม พับแขนเพิ่มความทะมัดทะแมง จับคู่กับกางเกงขายาวสีเอิร์ธโทน เช่นสีน้ำตาล สีกากี พับปลายขากางเกงเล็กน้อย ให้ลุคที่ดูสบายๆ และจับคู่สีได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
ลุค 5 : เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางเพลนๆ
เพิ่มความเกาให้หนุ่มๆ ดูอปป้าขึ้นกันอีกนิด ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางตรง เป็นลุคที่มีติดตู้ไว้ ใส่ได้บ่อย แมทช์ไม่เบื่อ ที่สำคัญคือเสื้อลายลางไม่ได้จำกัดแค่สีเรียบๆ เท่านั้น แต่สีสดๆ อย่างสีแดงก็หยิบมาใส่ได้ไม่ยาก เช่น ลุคของต่อ หรืออี้ ที่เลือกหยิบเสื้อเชิ้ตลายสีแดงสลับกรมท่ามาในงานวันเกิดอากง ซึ่งเป็นสีมงคลตามความเชื่อของชาวจีน พับแขนเสื้อทบขึ้นมาถึงข้อศอก ก็ดูสุภาพแบบไม่เป็นทางการจนเกินไป
หรือสวมเสื้อไว้ในกางเกงผ้าสีขายาวสีสุภาพอย่างสีดำ แค่นี้ก็ได้อีกลุคแล้ว หรือถ้าไม่ชอบสีฉูดฉาด ลองแต่งแบบลุคของเติร์ด หรือเต๋า (ในเรื่อง) ที่เลือกเสื้อเชิ้ตลายทางสีขาวดำ จับคู่ง่ายๆ กับกางเกงขายาวสีดำอีกเช่นเคย สวมไอเทมเพิ่มควาทเท่อย่าง แหวนเงิน หนุ่มๆ ก็พร้อมไปทำงานหรือไปงานสำคัญได้แล้ว
ลุค 6 : ลุคทางการ สวมสูทผูกเนคไท
ฉีกลุคจากก่อนๆ หน้าทั้งหมด ด้วยความทางการ ความเป็นการเป็นงานของ กัปตัน หรือเอิร์น ลูกชายของม๊าภัสสรที่ช่วยดูแลกิจการ ด้วยการที่ต้องเจอผู้คน เจรจางาน จึงแต่งตัวทางการน่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่ดูจนเกินวัย หนุ่มๆ วัยมหาลัยหรือทำงานก็สามารถแต่งลุคนี้ตามได้ แค่จับคู่สีให้ดี
สิ่งสำคัญคือ มีเสื้อเชิ้ตตัวในสำหรับสวมใส่ ควรเลือกสีที่ไม่เข้มจนเกินไป ยิ่งถ้าเป็นมือใหม่ลองหยิบเอาเนคไทสีพื้นเพราะจะแมทช์ง่ายกว่าแบบลายเยอะๆ เสื้อสูทไม่จำเป็นต้องเป็นสีเข้มสุดอย่างสีดำเพราะจะทำให้ดูขรึมจนเกินไป สามารถเลือกสูทสีสันสดใสได้ มองแล้วไม่อึมครึมอย่างเอิร์นที่ใส่สูทสีฟ้าน้ำทะเล เบรคด้วยกางเกงลายสก็อตสีกรมท่า ทำให้ลุคนี้มีความทางการ แต่ก็คงความแฟชั่นใสแบบผู้ชายที่แต่งตัวเป็น รับรองดูดีจนสาวๆ ต้องมอง ลองไปจับคู่แต่งดูกันเลย